วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หนีร้อนไปนอนเขาสอยดาว 3 (จบ)

สัญญลักษณ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว คือรูปกวางครับ
ขึ้นไปดูน้ำตกกันดีกว่าครับ

หลังจากผมกางเต้นท์เสร็จแล้ว ผมก็เอาของที่ไม่จำเป็นในการเดินป่าเก็บไว้ที่เต้นท์ครับ เอาไปเพียงข้าวเหนียว ไก่ย่าง น้ำเปล่า 1 ขวด และกล้องถ่ายรูปพร้อมกับขาตั้งกล้อง

ผมขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปยังจุดลานจอดรถอีก 2.5 กิโลเมตร  สองฝั่งเส้นทางเป็นป่าเขียวขจี ต้อนไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด แต่ถนนมีลูกระนาดที่ทำด้วยปูนซีเมนต์ขวางถนนถี่มากครับ ทำให้ผมขับช้าลงคอยระวังลูกระนาดเหล่านี้ ทางเขตอนุรักษ์ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวขับรถเร็วๆครับ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อสัตว์ป่าที่กำลังข้ามถนน

 ผมถึงที่ลานจอดรถ เวลา 10.15 น.  ต่อจากนั้นก็เดินเท้าต่อไปยังจุดชมน้ำตก ถ้าไปให้ถึงชั้น 9 ที่เราสามารถขึ้นไปเองได้ก็อีก 2.5 กิโลเมตร ผมไปได้แค่ชั้นที่ 6 ก็หมดแรงแล้ว ส่วนชั้นที่ 10 - 16 ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางให้

เส้นทางที่ใช้เดินเข้าไปชมน้ำตก เป็นเส้นทางเล็กๆ ผ่านป่าทึบเข้าไป เป็นเส้นทางที่เป็นรอยเท้าคนเดินเข้าออกเท่านั้นเองครับ ถ้าทางเขตปิดป่าสัก 3 เดือน เราก็อาจจะหาเส้นทางนี้ไม่เจอแล้วครับ เส้นทางจะเดินคู่ขนานไปกับลำธารน้ำตก เวลาเราเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลตลอดครับ พอถึงจุดชมน้ำตกแต่ละชั้นก็จะมีป้ายบอกชื่อน้ำตกพร้อมกับมีรอยทางเดินเท้าแยกเข้าไปชม  ดูเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่จุดแยกแล้วเดินขึ้นต่อไปชมชั้นอื่นอีก แบบนี้จนครบทุกชั้นครับ

ไปดูรูปของจริงกันดีกว่านะครับ


เส้นทางจากที่กางเต้นท์ไปจุดลานจอดรถขึ้นน้ำตก

เส้นทางร่มรื่นดีนะครับ ต้นไม้เยอะดี 

ขับมาได้ไม่นานก็จะเจอป้ายนี้ครับ มีกิจกรรมเยอะเลย














ถึงแล้วครับลานจอดรถ จอดรถไว้ที่นี่แล้วเดินเท้าต่อครับ

นี่ 10 โมงเข้าแล้วนะครับ คนยังมาน้อยอยู่เลย

จอดรถเสร็จแล้ว ต้องผ่านด่านตรวจตรงนี้ก่อนครับ ห้ามนำอาหารกับเครื่องดื่มแอลกอร์ฮอเข้าไปครับ ผมก็เลยต้องทิ้งไก่ย่างกับข้าวเหนียวไว้ที่รถ เอาแต่น้ำเปล่าขี้นไป

ตรงนี้ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีช่วงปิดป่าหรือเปล่า เขาตอบว่าไม่มีครับ เปิดตลอด จะปิดเฉพาะช่วงช้างป่าลงมา กับช่วงน้ำป่าไหลหลาก แต่ก็ปิดสั้นๆ ถ้าเห็นว่าปลอดภัยแล้วก็เปิดต่อ




ผ่านด่านตรวจอาหารแล้ว คนก็ไม่นิยมเดินป่าไปดูน้ำตกครับ จะอยู่เล่นน้ำทานอาหารกันตรงจุดนี้ น้ำก็ไหลเรียบๆแต่เยอะกว่าตรงจุดที่เรากางเต้นท์

ตรงนี้คือปากทางขึ้นน้ำตกครับ ต้องวางแผนเวลาให้ดีนะครับ เพราะเราจะต้องขึ้นไปและลงมาให้ถึงจุดนี้ก่อนเวลา 15.30 น. ครับ





สภาพเส้นทางที่เราต้องเท้าเข้าไปครับ เห็นเขียวชอุ่มแบบนี้ วันที่ผมไปอากาศร้อนอบอ้าว คล้ายฝนจะตกครับ และก็ตกจริงๆในช่วงบ่าย โชคดีที่ผมกลับถึงเต้นท์แล้ว

หน้าร้อนไม่ต้องกังวลเรื่องทาก แต่ถ้าหน้าฝนต้องเตรียมตัวป้องกันมาให้ดีเลยครับ รองเท้าก็ต้องใส่เดินป่า กันหลื่น กันทากได้ในตัว



ทุกชั้นจะมีป้ายบอกชื่อน้ำตกให้ครับ 
น้ำน้อย แต่ก็พอเล่นได้เย็นใจเลยครับ 

ผมแวะพักเหนื่อยที่ชั้นหนึ่งนานเลยครับ 

ผมแวะพักเหนื่อยที่ชั้นที่1 นานเลยครับ เหนื่อjยและอากาศร้อนมาก น้ำเปล่าที่เตรียมมาขวดเดียวก็หมดตรงนี้ คราวหน้า ต้องเตรียมมามากหน่อย

แต่ถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกว่ากล้องของผมตัวมันใหญ่ไป เริ่มหนักมากขึ้นเรื่อยๆ




ต้นพระเจ้าห้าพระองค์ใหญ่มาก


เดินต่อครับ  คราวนี้ผมไม่แวะที่ไหนเลย เพราะแวะแต่ละชั้นไม่มีน้ำให้ถ่ายเลย คิดในใจหน้าฝนมาใหม่แล้วกัน

เดินตรงไปชั้นที่ 6 ชั้นนี้ชื่อว่า ผานางลื่น เป็นชั้นที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของน้ำตกเขาสอยดาวเลยครับ แต่ดูจากสภาพน้ำแล้ว ผมก็หมดแรงจะไปต่อแล้วครับ

มาถึงจุดนี้เวลา 12.00 น.ครับ ถ่ายรูปสี่ห้าภาพ ผมก็กลับแล้วครับ เพราะการอยู่ในป่าคนเดียวนานๆ มันก็วังเวงใจมากครับ












ขากลับ ผมเริ่มเดินสวนทางกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น มาเป็นกลุ่มๆครับ  ทุกกลุ่มจะถามผมเหมือนๆกันครับ  อีกไกลไหม  คนเยอะไหม  น้ำเยอะไหม อะไรทำนองนี้แหละ  ผมรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญยังไงไม่รู้  แต่ก็หายใจทางปากตอบครับ หลังๆมาชักไม่อยากตอบแล้วครับ มันเหนื่อยมาก









กลับมาถึงเต้นท์ก็หมดสภาพทั้งคนทั้งกล้องครับ  เป็นครั้งแรกที่ผมกินข้าวเหนียวไก่ย่างอร่อยที่สุด น้ำเปล่า โค๊ก อร่อยมาก  ขาระบมไปหมด

คิดในใจ พักสักเดียวพอหายเหนื่อยจะไปต่อ คราวนี้จะไปถ่ายผีเสื้อ ที่นี่ผีเสื้อป่าเยอะไม่แพ้ที่ไหนเลยนะครับ  แต่พอได้ยินเสียงเพลงที่คนมาเที่ยวเปิดดังลั่นสนั่นป่า เพราะน้ำตกชั้นที่เรากางเต้นท์นี้ไม่ค่อยเข้มงวด เอาเหล้ามากินได้ครับ ก็เปลี่ยนใจ นอนเล่นรับลมเย็นที่เต้นท์ดีกว่า นอนไปดูรูปที่ถ่ายมาก็เพลินดีครับ


ผีเสื้อที่ถ่ายเก็บไว้ เมื่อครั้งมาก่อนหน้านี้





เวลาประมาณ 14.00 น. ผมก็มีเพื่อนมาเยี่ยมที่เต้นท์ครับ กวางป่าครับ  ก็นั่งถ่ายรูปเขาที่หน้าเต้นท์นั่นแหละ ไม่อยากลุกเดินไปไหนแล้ว มันเหมื่อยไปทั้งตัว เขาก็ดูเป็นมิตรกับผมนะ ปล่อยให้ผมถ่ายได้ตามอัธยาศัย จนนักถ่ายรูปกล้องโตมานั่นแหละ เขาถึงกระโจนหายไปในชายป่า


หลังจากถ่ายรูปกวางได้ไม่นาน ฝนก็ตก ต้องรีบเก็บของเข้าเต้นท์ แล้วนอนฟังเสียงสายฝนตกกระทบหลังคาเต้นท์ ฟังเพลินดี สายลมเย็นพัดลอดช่องหน้าต่างเต้นท์เข้ามา เย็นสบายดี ผมก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

พอตื่นมาหิวอีกแล้ว  และมันก็เย็นมากแล้วด้วย เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า


ที่จุดเรากางเต้นท์มีร้านอาหารของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าขายนะครับ เป็นอาหารตามสั่ง หรือจะสั่งเป็นชุดทานก็ได้ ถ้ามาเป็นหมู่คณะเขาก็ยินดีรับทำให้นะครับ โทรสั่งเขาล่วงหน้า  ร้านจะปิดประมาณสักสองทุ่ม

แต่ผมเลือกกลับไปทานร้านปากทางเข้า ที่เมื่อเช้าผมทานก่อนเข้ามานะครับ ผมขออนุญาติเจ้าหน้าที่ออกไปทานข้างนอก แล้วจะกลับมานอนที่เต้นท์ เขาก็ให้ครับ เขาบอกว่าเขาเฝ้าประตูทางเข้าออกทั้งคืนไม่ต้องกลัว

พูดถึงอาหาร ถ้ามาถึงน้ำตกเขาสอยดาว อย่าลืมสั่งเมนูอาหารที่มีกระวานเป็นเครื่องปรุงนะครับ เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ " กระวาน "  เป็นสนุนไพร มีต้นคล้ายๆข่าหรือขิง มีประโยชน์ตั้งแต่รากยันเมล็ดแก่ เขาจะเอาหน่ออ่อนมาทำอาหารครับ  เช่น ไก่ต้มกระวาน ซี่โครงหมู่อ่อนผัดกระวาน ไก่ผัดกระวาน  มีหลายร้านครับที่ทำอร่อย แต่ต้องเข้าไปตัวตลาดปะตงนะครับ  ส่วนผมชอบใช้บริการของร้านอาหารครัวเก้าเหรียญ  อยู่ตรงข้ามกับทางแยกเข้าน้ำตกครับ


หกโมงเย็น น้องชายคนเล็กของผมที่เขายน้ำแข็งอยู่ที่ตลาดปะตงมานอนเป็นเพื่อนครับ ให้ลูกสาวขับมอเตอร์ไซค์มาส่ง

คืนนั้นเมฆฝนหนามาก เรามองไม่เห็นดาวเลย ทั้งที่เป็นคืนเดือนแรม แต่พี่น้องก็ได้มีโอกาสคุยกันหลายเรื่อง ก่อนนอนเราก็แอบเอาเหล้ามาจิบแบบเพียวๆเงียบๆไม่เยอะแค่พอให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเท่านั้น พอเข้านอนเราไหว้พระก่อนนอนพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย น้องผมไหว้นานมากประมาณว่ามีคาถากี่บทยกมาหมดเลย แล้วเราก็หลับ ประมาณตีสามครึ่ง เราสองคนก็ตกใจตื่นเพราะเสียงร้องของกวางป่า ดังกังวาลก้องไพรเลยครับ ดังคล้ายๆเราเอากระแทกแตรรถยนต์แล้วปล่อย มากัน 4 ตัว เดินผ่านเต้นท์เราไป เหมือนมาทักทายครับ

ตื่นเช้า เราช่วยกันเก็บเต้นท์ เพราะฝนทำท่าจะตกอีกแล้ว ต้องรีบกลับออกไป น้องผมต้องรีบไปขายน้ำแข็งครับ หน้าร้อนน้ำแข็งขายดี

ร่ำลาเจ้าหน้าที่ผู้ใจดี  ผมบอกเขาว่าไม่มีใครมาเก็บเงินค่ากางเต็นท์เลย เขาบอกว่า ไม่ต้องจ่ายหรอก ไปเถอะ และหาโอกาสมาเที่ยวอีกนะ

มาแน่นอนครับ ฝนนี้แหละ  จะมาเอารูปให้ได้ และจะไปให้ถึงชั้น 16 เลย ขอกลับไปฟิตร่างกายก่อนครับ

ลาก่อนครับ เขาสอยดาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น